เวียดนามกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของไทยในการลงทุนหาแหล่งพลังงานและพื้นที่เพาะปลูก
ประเทศเป้าหมายของนักลงทุนชาวเวียดนามหนีไม่พ้นเพื่อนบ้านอย่างลาวและกัมพูชา โดยลาวเป็นแหล่งลงทุนอันดับ 1 ของนักลงทุนชาวเวียดนาม สาเหตุที่ลาวเป็นเป้าหมายสำคัญของนักลงทุนเวียดนามเนื่องจากลาวเป็นจุดเชื่อมต่อเวียดนามและจีนตอนใต้ ซึ่งหากโครงข่ายคมนาคมสร้างเสร็จจะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับการค้าการลงทุน ประกอบกับลาวยังมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นที่หมายตาของนักลงทุนเวียดนามเป็นอันดับต้นๆ โดยเวียดนามมีแผนการลงทุนในลาวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ภายในปี 2015 คาดว่าจะลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากมูลค่าการลงทุนในปัจจุบันที่อยู่ที่ประมาณ 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
แต่ถ้าดูโครงการลงทุนส่วนใหญ่ จะเป็นในลักษณะใกล้เคียงกับโครงการที่ไทยเข้าไปลงทุนในลาว คือภาคพลังงาน เนื่องจากเวียดนามเริ่มประสบปัญหาขาดแคลนพลังงานจากการที่ภาคการผลิตเติบโตเร็วทำให้ความต้องการพลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ยเพิ่มถึง 15% ต่อปี ขณะเดียวกันความสามารถในการผลิตพลังงานไฟฟ้ายังไม่เพียงพอกับความต้องการที่เติบโตเร็ว เวียดนามจึงต้องเดินหน้าหาแหล่งพลังงานเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยเริ่มเข้าไปลงทุนโรงไฟฟ้าพลังน้ำในลาวหลายโครงการ
นอกจากด้านพลังงานแล้ว ยังมีการลงทุนในด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรในลาวและกัมพูชา ที่น่าจับตามองคือยางพารา โดยเวียดนามมีแผนลงทุนขยายพื้นที่เพาะปลูกยางพาราในลาวและกัมพูชาถึงราว 1.3 ล้านไร่ภายในปี 2020 ทั้งนี้ แม้ผลผลิตยางพาราจะยังไม่มากพอที่จะมาแข่งขันกับไทย แต่สะท้อนถึงการมีคู่แข่งในการแย่งชิงพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นในอนาคต
ไทยคงชะล่าใจไม่ได้อีกแล้วเพราะเวียดนามมีมาตรการเชิงรุกที่ชัดเจนที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว กัมพูชา รวมไปถึงพม่าที่กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนหลายประเทศ เวียดนามไม่เพียงแต่สนใจลงทุนในภาคการผลิตเท่านั้น แต่ยังมีการกระจายการลงทุนไปยังภาคบริการอีกด้วย อาทิธุรกิจโรงแรม อพาร์ทเมนท์ ซึ่งหากไทยยังไม่มีมาตรการเชิงรุกในการลงทุนอย่างเอาจริงเอาจัง อาจจะโดนเวียดนามแซงหน้า แย่งชิงแหล่งลงทุนที่มีศักยภาพเหล่านี้ไปในที่สุด